สายตาเสีย

สายตาเสีย ตั้งแต่เล็กเพราะทำ 8 พฤติกรรรมเสี่ยง!

Alternative Textaccount_circle
event
สายตาเสีย
สายตาเสีย

8 พฤติกรรมเสี่ยงทำลูกสายตาเสีย!!

การจะรักษาดวงตาของลูกให้มีสุขภาพสายตาที่ดีอยู่ตลอดเวลาได้นั้น คุณพ่อคุณแม่ควรต้องให้ความสำคัญในการดูแลตั้งแต่ตอนที่ลูกยังเล็กๆ ต้องหลีกเลี่ยงการใช้สายตากับกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมดังนี้…

1. ใช้สายตาในที่มืด

ในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่นถ้าไม่เปิดไฟให้สว่างเพียงพอ มีแค่แสงสลัวๆ แนะนำว่าไม่เหมาะที่เด็กๆ จะอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้สายตากันนะคะ เนื่องจากการใช้สายตาในที่แสงน้อยๆ จะส่งผลทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตา และม่านตาทำงานหนักมากกว่าปกติ  ซึ่งถ้าเด็กๆ ทำแบบนี้บ่อยๆ แน่นอนว่ามีความเสี่ยงที่จะสายตาสั้นได้ง่ายมากค่ะ

2. อ่านหนังสือขณะนั่งรถกำลังวิ่ง

บางทีนั่งรถนานๆ ไปกับคุณพ่อคุณแม่ หรือเวลาที่นั่งรถไปโรงเรียน รถติดกว่าจะถึงที่หมาย เด็กๆ มักหยิบเอาหนังสือเรื่องโปรด หรือมือถือออกมาเล่น ซึ่งรู้หรือไม่คะว่าการใช้สายตาในการเพ่งจดจ่ออยู่กับหนังสือ หรือมือถือ ฯลฯ นั้น จะทำให้ดวงตาต้องเพ่งหนักมากขึ้น เพราะแรงสั่นสะเทือนขณะรถวิ่ง และถ้าเด็กๆ ทำแบบนี้บ่อยๆ จะทำให้ปวดเบ้าตา ปวดศีรษะ และทำให้ตาเหล่ เสียศักยภาพในการมองเห็นอีกด้วยค่ะ

3. นอนอ่านหนังสือ

จะว่าไปการนอนอ่านหนังสือนี่ก็ดูสบายๆ ไม่น่าจะเป็นผลเสียต่อสายตาได้ว่าไหมคะ จริงๆ ถ้าเป็นหนังสือเล่มปกติที่มีขนาดตัวหนังสือใหญ่เป็นมาตรฐานก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ถ้าเด็กๆ อ่านตัวหนังสือจากมือถือ หรือไอแพดที่ขนาดตัวหนังสือเล็กมากบวกกับขนาดจอเล็ก แถมยังมีแสงสีฟ้าจากหน้าจออีก รู้ไหมว่าจะทำให้กล้ามเนื้อดวงตาต้องทำงานหนักในการปรับโฟกัสตัวหนังสือ แล้วถ้าอ่านตัวหนังผ่านจอบ่อยๆ จะทำให้ลูกเสี่ยงสายตาเสียเร็วมากขึ้นค่ะ

4. ใช้สายตากับหน้าจอคอมพิวเตอร์นานติดต่อหลายชั่วโมง

เป็นที่รู้กันว่าการเรียนการสอนในปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตที่ไม่ว่าบ้านไหนก็ต้องมีคอมพิวเตอร์ ซึ่งเมื่อเด็กๆ เริ่มใช้เป็นแน่นอนว่าการค้นหาข้อมูลเพื่อทำรายงาน หรือการบ้านก็ง่ายเพียงปลายนิ้วคลิก แต่การท่องโลกอินเตอร์เน็ตอยู่จ้องหน้าจอคอมนานหลายชั่วโมง ก็ทำให้น้ำในตาแห้ง แสบเคืองตา และที่แย่ไปกว่านั้นคือหากทำพฤติกรรมนี้สะสมบ่อยๆ จะทำให้กล้ามเนื้อตา จอประสาทตาเสื่อม เป็นโรคสายตาสั้นอีกด้วยค่ะ

บทความแนะนำ คลิก>> อุทาหรณ์! แม่ฝากเตือน ระวังเด็กเล่นกัน ลูกถูกฝักคูนแทงเข้าตา รักษาไม่ได้ หมอต้องผ่าดวงตาทิ้ง

5. ใช้มือสกปรกขยี้ดวงตา

ดวงตาของเด็กๆ ง่ายต่อการเกิดการอักเสบ หรือเป็นโรคตาแดงได้บ่อยครั้ง ถ้าหากไม่รักษาความสะอาดให้กับดวงตา อย่างเวลาออกไปเล่นนอกบ้าน หรือมือไปสัมผัสจับมากับฝุ่นละออง แล้วไม่ล้างมือให้สะอาด พอเอามือมาป้ายหรือขยี้ตา แน่นอนว่าเชื้อโรคที่ติดมากับมือสามารถทำให้เป็นตาแดง ตาอักเสบ และที่น่ากลัวคือถ้าลูกขยี้ตาแรงๆ เสี่ยงทำให้กระจกตาได้รับบาดเจ็บฉีกขาดด้วยนะคะ

6. ดวงตาได้รับบาดเจ็บ

เด็กๆ ที่อยู่ในวัยกำลังซน หรือวัยเรียน บางครั้งเล่นสนุกกับเพื่อนๆ จนลืมระมัดระวังอุบัติเหตุจากการเล่นสนุกนั้นๆ เช่น การเล่นโยนของใส่กัน หรือเล่นกีฬาแล้วพลาดกระแทกโดนหน้า โดนตา ฯลฯ ก็ทำให้ดวงตากระทบเทือน ได้รับบาดเจ็บหากร้ายแรงอาจทำให้ตาบอด สูญเสียการมองเห็นได้ค่ะ

7. การใช้สายตาทั้งคืน

ช่วงปิดเทอม หรือช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ พ่อแม่อาจคิดว่าให้ลูกได้พักผ่อน ถ้าเขาจะดูหนัง ดูซีรีส์ หรือจะเล่นคอมฯ ดึกดื่นก็ไม่เป็นไร ดีกว่าลูกออกไปเล่นนอกบ้านไกลสายตา อ๊ะๆๆ คิดแบบนี้ไม่ได้นะคะ เพราะการให้ลูกใช้สายตาทั้งวัน ทั้งคืน ไม่ยอมหลับ ยอมนอน นอกจากสุขภาพร่างกายโดยรวมจะแย่แล้ว สุขภาพดวงตาก็แย่มากไม่ต่างกันค่ะ การใช้สายตาหนักๆ แบบไม่หยุดพัก ปัญหาสุขภาพตาที่จะตามมาคือ ดวงตาอ่อนล้า น้ำในตาแห้ง วุ้นตาเสื่อม ปวดตา เป็นต้น ฉะนั้นควรสอนให้เด็กๆ ใช้สายตาอย่างเหมาะสม และควรถนอมดวงตาให้มากๆ เพื่อที่จะได้มีดวงตาคู่สวยใช้ไปนานๆ หมดปัญหา สายตาเสีย เร็วด้วยค่ะ

8. ไม่สวมแว่นกันแดด กันลม

ไม่ใช่เฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้นที่เวลาอยู่นอกบ้าน นั่งรถ เดินเล่น ไปเที่ยวแล้วมีแว่นสวมใส่กันแดด กันลม เพราะเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรหาแว่นไว้ให้ลูกใส่ด้วยเช่นกัน การสวมแว่นกันแดดถือเป็นการช่วยถนอมดวงตาได้ดีวิธีหนึ่ง ช่วยให้ห่างไกลจากโรคต้อลม ปกป้องดวงตาจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อสายตาอีกด้วยค่ะ

เมื่อทราบกันแล้วว่าพฤติกรรมใดที่เสี่ยงทำให้สายตาเสียได้ตั้งแต่เด็กๆ คุณพ่อแม่ควรสอนอธิบายลูกให้เข้าใจ และรู้จักวิธีการใช้สายตาอย่างทะนุถนอมกันด้วยนะคะ เพื่อสายตาที่สดใสและประสิทธิภาพการมองเห็นที่ยาวนานค่ะ

อ่านต่อ 7 อาหารบำรุงสายตาลูกน้อย หน้า 3 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up