[Blogger พญ.พิชญา ตันธนวิกรัย] ไม่มีเวทมนตร์ใดเสกให้ลูกเชื่อฟังและทำตาม

สมัยอยู่กรุงเทพฯ หมอกับทีมนักจิตวิทยาเคยจัดอบรมเรื่องเทคนิคการปรับพฤติกรรมเด็กอยู่หลายครั้งค่ะ พอถึงหัวข้อเรื่อง “เทคนิคการสื่อสาร” ทีไร คุณพ่อคุณแม่มักถามหาว่า มีคำพูดแบบไหนที่จะทำให้ลูก “เชื่อฟัง” และ “ทำตาม” ที่เราพูดได้

[Blogger พญ.พิชญา ตันธนวิกรัย] ‘เราอยากให้เขาได้ดี เลยต้องคอยบอกคอยสอน

คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านก็อย่าลืมที่จะคอยสำรวจคำพูดของเราเองอยู่เสมอนะคะว่าเผลอทำให้ลูกน้อยเนื้อต่ำใจหรือเปล่า เพราะความหวังดี ที่สื่อสารออกไปได้ไม่ดี อาจจะกลายเป็นอาวุธที่ทิ่มแทงจิตใจเด็กของเราอยู่ก็ได้ค่ะ

[Blogger-ซาร่า คาซิงกินี] ตอนที่ 4 แบ่งเวลาเลี้ยงลูกสไตล์ซาร่า

“แบ่งเวลางานและเวลาเลี้ยงลูกสไตล์ซาร่า”   แม้ว่าจะมีลูก เราก็ต้องทำงาน วิธีแบ่งเวลาเรื่องงานของซาร่าอาจจะแตกต่างจากคนอื่นสักหน่อย มาลองฟังกันค่ะ เนื่องจากช่วงขวบแรก ซาร่ากับแม็กซ์เวลล์มีงานออกอีเว้นท์คู่กันด้วยบ่อย ซาร่าจึงเอาเรื่องงานกับการเลี้ยงลูกมารวมกัน เราไปไหน เขาก็ไปด้วยเสมอ ไม่ห่างกันเลย เพราะให้ลูกได้อยู่ใกล้ชิดกับเรา หิวก็กินนมเข้าเต้า ได้เล่นกับเขาไม่ห่าง เพราะว่า 2 ขวบปีแรก สมองของเด็กจะพัฒนาจากอาหารและการเลี้ยงดู ได้สัมผัสจากแม่ ซึ่งดีกว่าของเล่นชนิดอื่นๆ แต่ซาร่าก็จะมีธุรกิจส่วนตัวอยู่ 2 – 3 อย่างค่ะ โดยจะเลือกงานที่ทำที่บ้านได้ เหมือนเอาออฟฟิศมาตั้งที่บ้าน คือทำงานในบ้านและมีเวลาเลี้ยงลูกไปด้วย ส่วนการดูแลตัวเองก็มีบ้าง แต่จะพาพี่แม็กซ์ไปด้วยเสมอ พูดง่ายๆ ว่าซาร่าห่างกับลูกน้อยมากจริงๆ ค่ะ      

[Blogger พลอย ชิดจันทร์] ตอนที่ 1 เผยเคล็ดลับครอบครัวแสนอบอุ่น

ส่วนเรื่องลูกเล่นกัน ทะเลาะกัน พลอยใช้เทคนิคการให้คะเเนน จะมีสมุดเล็กๆคอยจดคะเเนน ซึ่งใครได้คะเเนนมากจะได้รางวัล ถ้าทะเลาะกันจะลดคะเเนน

ประสบการณ์ ล้างจมูกลูก (ภายใต้คำแนะนำของพยาบาล) โดย พ่อเอก

เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และสบายใจ ในการ ล้างจมูกลูก ครั้งแรกควรจะไปให้คุณหมอ คุณพยาบาลสอนก่อน เพราะจะได้สบายใจว่าเลือกอุปกรณ์ ถูกต้อง ทำขั้นตอนถูกต้อง รวมทั้งได้ซักถามข้อกังวลสงสัยต่างๆ

[Blogger แม่อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส] Kidchen ครัวตัวจิ๋ว – Super Hash Browns ซูเปอร์แฮชบราวน์ส

ตั้งกระทะไฟปานกลาง ใส่น้ำมันเล็กน้อย นำมันฝรั่งขูดลงวางเป็นแผ่นกลมๆ เกลี่ยให้ไม่หนามาก จะทำเป็นชิ้นเล็กๆ หลายๆ ชิ้น หรือชิ้นใหญ่ชิ้นเดียวแล้วค่อยตัดทีหลังก็ได้

[Blogger-ซาร่า คาซิงกินี] ตอนที่ 3 ตั้งใจให้นมลูกครบปี

แม็กซ์เวลล์เป็นเด็กที่กินนมเก่งมาก และซาร่าก็ตั้งใจไว้ว่าจะให้นมเขาไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะเลิกกินไปเอง ทุกวันนี้ก็ทำมาได้ปีกว่าแล้วค่ะ   เริ่มแรกศึกษาจากเว็บไซต์ และแฟนเพจคุณหมอชื่อดัง หรือเพจนมแม่ต่างๆ ซื้อหนังสือมาอ่านบ้าง แต่ที่ได้ผลดีคือไปที่คลินิกนมแม่ มีเพื่อนที่เป็นหมอนมแม่คอยให้คำปรึกษา เดี๋ยวนี้ช่องทางการศึกษาเรื่องนมแม่มีเยอะค่ะ ง่าย และสะดวกมาก   โชคดีที่เราไม่มีปัญหาเรื่องน้ำนมเลย จะมีก็ช่วงนี้ที่พี่แม็กซ์เริ่มกัดหัวนมเล่น เพราะฟันน้องกำลังขึ้น เขาคงจะหมั่นเขี้ยว กินไปเล่นไป ตามวัยเด็ก แต่ซาร่าไม่ท้อนะคะ เพราะรู้ว่าน้ำนมแม่มีสารอาหารจำเป็นต่อลูกเยอะมาก และนมแม่ก็เป็นนมที่ดีที่สุดสำหรับลูก   อีกเรื่องที่ส่งผลจากนมแม่ไปสู่ลูก คือการแพ้อาหาร ซาร่าจะระวังเรื่องการรับประทานของตัวเองมาก อย่างน้ำอัดลม ก็จะเลิกไปเลย (จะกินก็ต่อเมื่ออยากมากๆ แต่จะดื่มให้น้อยที่สุด) ส่วนอาหารทะเล เช่น ปลาหมึก ซาร่าก็ต้องงดค่ะ เพราะเคยกินปลาหมึกแล้วลูกอึเป็นสีเขียว และดูไม่สบายตัว เพราะฉะนั้นอาหารที่จะผ่านจากน้ำนมไปสู่ลูกที่ทำให้ลูกแพ้ เราก็จะไม่กินค่ะ

[Mom diary แม่โอ] ถูก-ผิด คิดไม่ยาก

ในโลกที่ ความถูก ความผิด เริ่มละลายปนกัน จนแบ่งขอบเขตไม่ค่อยชัดเจน เราจะสอนให้ลูกรู้จักแยกแยะว่าอะไรถูก อะไรผิด ได้อย่างไร? ฟังแล้วเหมือนยาก แต่จริงๆ แล้ว พอไหวค่ะ!

[Blogger-ซาร่า คาซิงกินี] ตอนที่ 2 ถามเรื่องเลี้ยงลูกจากคุณแม่มืออาชีพ

“เมื่อซาร่ามีปัญหาในการเลี้ยงลูก ก็ถามจากคุณแม่มืออาชีพ…”             แม่มือใหม่ทุกคนก็ต้องมีต้นแบบที่คอยสอนวิธีให้กับเรา ต้นแบบของซาร่าก็คือคุณแม่ของซาร่าเอง หรือคนใกล้ตัวที่เราเห็นและได้สัมผัสวิธีการเลี้ยงลูกในแบบของเขา เวลาซาร่ามีปัญหาก็ปรึกษาพวกเขานี่แหละค่ะ ซาร่าอยากเลี้ยงแม็กซ์เวลล์ให้ดีที่สุด เวลามีปัญหาที่เราไม่เคยเจอมาก่อนก็ถามจากคนรอบตัวที่เคยผ่านเรื่องเหล่านี้มาแล้วและดูเป็นคุณแม่มืออาชีพมากกว่าเรา คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายคนเลี้ยงลูกคนเดียว เวลาลูกดื้อก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร เดี๋ยวนี้มีคลับ และกลุ่มทางโซเชี่ยลมีเดียสำหรับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวโดยเฉพาะ ซาร่าอยากแนะนำให้คนที่ไม่รู้จะปรึกษาใครลองหากลุ่มที่เราคุยแล้วสบายใจไว้เป็นเพื่อนเรานะคะ อีกมุมที่ดีคือเวลาเราได้ให้คำปรึกษาคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวด้วยกัน แล้วคำแนะนำของเราช่วยเขาได้ มันรู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ           แม้ว่าหลายคนจะเปรียบเทียบลูกตัวเองกับคนอื่นๆ แต่สำหรับแม็กซ์เวลล์แล้ว ซาร่าไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เขาไม่ต้องโตมาเป็นคนเก่งอะไรมากมาย แค่เติบโตมาเป็นคนดี เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุขก็พอแล้วค่ะ    

[Blogger แม่อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส] Kidchen ครัวตัวจิ๋ว Cheesy Quesadilla เคซาดีย่าน่าหม่ำ

Kidchen ครัวตัวจิ๋ว โดย คุณแม่อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส Cheesy Quesadilla เคซาดีย่าน่าหม่ำ เคซาดีย่า หรือเคซาเดีย เป็นอาหารกึ่งกินเล่นกึ่งกินเอาอิ่มของคนเม็กซิกัน ทำจากแป้งตอร์ติย่าใส่ไส้ชีสกับซอสและเครื่องประกอบต่างๆ ความดีงามคือทำง่ายแสนง่าย และเปลี่ยนไส้ไปได้สารพัด (แอบใส่ผักไปได้แบบเนียนๆ) แถมครบถ้วน สารอาหารทั้งแป้ง โปรตีน ไขมัน และวิตามินต่างๆ เหมาะกับคุณแม่ที่ไม่มีเวลามากนัก หั่นเป็นชิ้นๆ ให้ลูกน้อยถือกินง่าย ผู้เขียนทำทีไร ลูกสาวเป็นต้องมาคว้าไปหม่ำๆ เสียจนคุณแม่ทำไม่ทัน ส่วนผสม แผ่นแป้งตอร์ติย่า ชีสขูด (ใช้ชีสที่ละลายแล้วเยิ้มๆ เช่น Mozzarella, Cheddar, Pepper Jack, Monterey Jack เป็นต้น) ซอสซัลซ่า (หรือซอสมะเขือเทศ) เนื้อสัตว์หรือเห็ดรวนพอสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วหรือเกลือเล็กน้อย ผักต่างๆ เช่น บร็อคโคลี่นึ่งพอสุก ผักขมสับละเอียดผัด แครอทขูดเป็นเส้น วิธีทำ 1. ตั้งกระทะไฟปานกลาง วางแผ่นแป้งตอร์ติย่าลงไป 2. โรยชีสให้ทั่วๆ แล้วใส่ไส้อื่นๆ […]

[Blogger พ่อเอก-56] ทำให้เขามีความสุขหรือสอนให้เขามีความสุข

ทำให้เขามีความสุขหรือสอนให้เขามีความสุข ผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนเวลาที่มองไปที่เจ้าตัวเล็กน่าจะมีความคิดอย่างหนึ่งที่เหมือนกันคือ ถ้าองค์กรธุรกิจเขาต้อง Maximize Profit วัตถุประสงค์หลักสถาบันครอบครัวก็คงไม่น่าจะพ้น Maximize Happiness ให้เจ้าตัวเล็ก ด้วยความรักและความสุขเวลาที่ได้เห็นเจ้าตัวเล็กมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ มันจึงนำคุณพ่อคุณแม่ไปสู่ ‘กับดักความสุข’ (อันนี้เป็นศัพท์เทคนิคที่ผมคิดมาเองนะฮะ อย่าเอาไปอ้างอิงทางวิชาการใดๆ 555) เจ้ากับดักความสุขที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อคุณแม่เนี่ย มันเกิดจาก‘การเสพติดรอยยิ้ม’ ครับ รอยยิ้มของเจ้าตัวเล็กเนี่ยแหละฮะ และคุณพ่อคุณแม่จะมีอาการตรงข้ามคือ ‘เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรง’ เมื่อเจ้าตัวเล็กเกิดอาการหน้าเบะ โดยจะเกิดอาการเคืองตา ต่อมน้ำตาเร่งขับน้ำตา บางรายอาจจะถึงขั้นหัวใจหวิวๆหวั่นไหวคล้ายจะเป็นลม ดังนั้นวิธีการง่ายๆที่คุณพ่อคุณแม่มักจะนำมาใช้จัดการกับอาการดังกล่าวก็คือ ‘การจัดให้’ ไปจนถึง ‘จัดหนัก’ซึ่งการให้ทุกอย่างทุกครั้งที่เจ้าตัวเล็กร้องขอก็แน่นอนที่จะทำให้เจ้าตัวเล็กมีรอยยิ้ม หัวเราะชอบใจ ไปจนถึงออดอ้อน ซึ่งก็จะยิ่งให้คุณพ่อคุณแม่แพ้ทางเข้าไปอีก เช่น เจ้าตัวเล็กอยากเล่นของเล่น ก็จัดให้ ซึ่งบางครั้งบางเวลาอาจจะเล่นมากเกินไปแล้ว จนถึงเวลาทานข้าวแต่เจ้าตัวเล็กก็ยังไม่ยอมเลิก คุณพ่อคุณแม่ก็ยังตามใจเพราะ ไม่อยากเห็นน้ำตา หรือ หากเจ้าตัวเล็กกำลังติดจอมือถือ ดูนานเกินไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่กล้าขัดใจ กลัวลูกเบะ และต่อให้สิ่งที่เจ้าตัวเล็กกำลังทำนั้น จะเป็นสิ่งที่ดี แต่หากตามใจกันไปทุกครั้งที่มีการร้องบางทีมันก็อาจจะไปเป็นการบ่มเพาะนิสัยบางอย่างที่เราไม่ปรารถนาหรือไม่ เช่น เอาแต่ใจ ไม่มีระเบียบวินัย ลองยกตัวอย่างแบบนี้นะฮะ เราอยากส่งเสริมให้ลูกเล่นกอล์ฟ แล้วเจ้าตัวเล็กก็มีแววจะชอบซะด้วย ดังนั้น พอเจ้าตัวเล็กร้องขอจะไปเล่นกอล์ฟ […]

[Blogger พญ.พิชญา ตันธนวิกรัย] ปัญหาของลูกเรารุนแรงระดับไหน พ่อแม่จึงควรไปปรึกษาหมอ?

เพราะในชีวิตของคนเราทั้งผู้ใหญ่และเด็กก็ล้วนมีเรื่องให้ไม่สบายใจ ทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่าปัญหาที่เด็กในครอบครัวเราพบอยู่นั้น จำเป็นต้องได้รับการบำบัดรักษา..

[Blogger-ซาร่า คาซิงกินี] ตอนที่ 1 กำลังใจสำคัญของการเป็น Single Mom

“กำลังใจสำคัญของการเป็น Single Mom”             มีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหลายคน Inbox มาหาซาร่า มาขอคำปรึกษาเรื่องต่างๆ มากมาย ที่ร้ายแรงที่สุดคือบางคนคิดจะไม่เก็บลูกไว้ก็มี วันนี้ซาร่าขอเล่าถึงกำลังใจที่ทำให้ซาร่าเลี้ยงแม็กซ์เวลล์ลำพังตัวคนเดียวได้อย่างเข้มแข็ง มาแลกเปลี่ยนให้คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทุกคนได้ฟังกันค่ะ ลูกคือกำลังใจสำคัญ กำลังใจสำคัญของซาร่าก็คือลูก รอยยิ้มของเขาทำให้ซาร่าหายเหนื่อย หายท้อ ความรักที่เรามีให้กับลูกทำให้เราอยากมีวันนี้และวันต่อๆ ไป ความเป็นแม่ทำให้ผู้หญิงเข้มแข็ง รักแท้จากสายสัมพันธ์แม่ลูก ช่วยให้ซาร่าเข็มแข็ง มีสติ โตเป็นผู้ใหญ่กว่าแต่ก่อนมาก มันทำให้ซาร่าใช้เหตุผลตัดสินปัญหา ต่างจากแต่ก่อนที่ใช้แต่อารมณ์ อยากให้ลูกภูมิใจที่มีเราเป็นแม่เขา เชื่อไหมคะว่า “ลูก” ทำให้ซาร่าอากเป็นคนที่ดีกว่าเดิม อยากเป็นแม่ที่ดี และแข็งแกร่ง มันเหมือนกับความรู้สึกที่เราอยากเป็น Super Hero ที่คอยอยู่ดูแลปกป้องลูก และสุดท้ายอยากจะบอกกับคุณผู้หญิงทุกคนที่มีโอกาสได้เป็นคุณแม่แล้วว่า “ความรักที่มีต่อลูกสามารถทำให้ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่แล้ว ลุกขึ้นมาทำอะไรได้ตั้งมากมายหลายอย่าง โดยที่ตัวคุณเองก็คาดไม่ถึง”             ซาร่าได้เลี้ยงลูกด้วยตัวเอง รู้สึกมีความสุข และภูมิใจในอาชีพแม่มากๆ ค่ะ พอคิดได้แบบนี้แล้ว มันทำให้เราไม่เป็นทุกข์เลยค่ะ มองหน้าลูกเข้าไว้นะคะ ซาร่าเป็นกำลังใจให้คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวทุกคนค่ะ^^  

[Blogger พ่อเอก-51] ปูนปั้น ไปโรงเรียน ครบ 2 สัปดาห์

ปูนปั้น ไปโรงเรียน ครบ 2 สัปดาห์   ตอนที่แล้วเขียนเล่าเรื่องวันแรกของปูนปั้นในการไปโรงเรียนแล้ว ตอนนี้จะมาเล่าเรื่องการปรับตัวในการไปโรงเรียนจนครบ 2 สัปดาห์แรกครับ   ปูนปั้นมีปรับตัวดีขึ้นทุกวัน โดยวันที่ 2, 3, 4 และ 5 ของการไปโรงเรียนสัปดาห์แรกก็ร้องไห้น้อยลง วันหลังๆ ร้องไห้เป็นพิธี คุณครูเล่าให้ฟังว่า พอปะป๊าหม่าม๊าลับตา ปูนปั้นก็เดินไปเล่นของเล่นเลย เหมือนกับเผื่อปะป๊าหม่าม๊าใจอ่อนพากลับบ้าน (ฮ่าฮ่าฮ่า) แต่พอลับตาก็ลืมไปว่าเมื่อกี๊ตอนปล่อยมือกันยังน้ำตาไหลอยู่ พอวันจันทร์ของสัปดาห์ที่สอง ก็ไม่มีการร้องไห้แล้ว แม้หน้าตาจะยังกระอักกระอ่วนบ้างเวลาตอนไปส่งที่โรงเรียน แต่ไปถึงห้องก็ทำตามหน้าที่เลย คือ ถอดรองเท้าวางเข้าชั้น หิ้วกระเป๋า จูงมือคุณครูเข้าห้อง เก็บใส่ชั้นของตัวเอง แล้วก็ลงไปเล่นกับคุณครูเลย ไม่หันมามองซะด้วยซ้ำว่า ปะป๊ากะหม่าม๊ายังยืนแอบมองอยู่ที่หน้าห้อง สิ่งที่เราเรียนรู้ : เด็กๆ รู้จักปรับตัวเองให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ได้ไม่ยาก เราเพียงทำหน้าที่อธิบายว่าทำไมเขาถึงมาเจอสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ และคอยให้กำลังใจเจ้าตัวเล็ก ดังนั้นอย่ากังวลมากไปครับ ตอนเราเด็กๆ ก็ไปโรงเรียนกันได้แม้วันแรกๆ เราจะโลกแตกเหมือนกัน   การทานข้าวเช้าปรับตัวสวนทางกับการไปโรงเรียน ลีลาเยอะขึ้นกว่าวันแรกๆ จากวันแรกๆ ที่ทานหมดตั้งแต่ก่อนถึงโรงเรียน […]

[Blogger พ่อเอก-55] สอนให้รู้จักรับผิดชอบต่อส่วนรวม

สอนให้รู้จักรับผิดชอบต่อส่วนรวม เราอาจจะคิดว่าเด็กตัวเล็กๆ 2-3 ขวบน่าจะยังไม่เข้าใจ ว่าอะไร คือ สิ่งที่เรียกว่า ‘ความรับผิดชอบต่อสังคม’ ในด้านหนึ่ง มันคงจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ ถ้าเราจะเน้นที่คำว่า ‘ความเข้าใจ’ แต่ถ้าเราต้องการให้เด็กเรียนรู้สิ่งที่ดี ก็ใช่ว่า ‘ความเข้าใจ’ จะเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผู้ใหญ่ที่เข้าใจกันดี ก็ยังไม่ทำกันเลย หากแต่‘การทำเป็นแบบอย่าง’ ต่างหากที่จะทำให้เด็กทำตามและเรียนรู้ในสิ่งที่ดี เมื่อคราวที่ครอบเราไปเดินเล่นที่ห้างขายเฟอร์นิเจอร์แถวบางนา แล้วเราก็ได้แลกเหรียญเพื่อมากดไอศครีมโคนสุดโปรดของเจ้าปูนปั้น (พูดได้เลยว่า ปูนปั้น อยากมาที่นี่ เพื่อสิ่งนี้) เมื่อกดแล้ว เราก็ให้เจ้าตัวป่วนถือเดินหม่ำอย่างเอร็ดอร่อย แล้วก็แน่นอนว่ามันจะมีต้องมีหกมีหยดลงพื้น ซึ่งหม่าม๊าเจ้าปูนปั้นจะคอยถือกระดาษทิชชู่ก้มๆเงยๆ เช็ดที่พื้นเพื่อไม่ให้คนที่เดินผ่านไปมาเหยียบเลอะ ซึ่งปรากฏว่าหลังจากนั้น ไม่ว่าไปหม่ำอะไร แล้วมีเศษหกหล่นบนพื้น เจ้าปูนปั้นก็จะขอกระดาษหม่าม๊าลงไปเช็ดให้สะอาด (คลิปประกอบ) นั่นเป็นสิ่งที่เด็กเรียนรู้ แม้เขาอาจจะไม่เข้าใจ ว่านั่นคือ สิ่งที่ผู้ใหญ่เรียกว่าความรับผิดชอบต่อสังคมก็ตาม หรือตัวอย่างอีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องการไม่สวมรองเท้าในสถานที่ห้ามใส่ ตามสถานที่สาธารณะในร่ม เช่นห้างสรรพสินค้ามักจะมีสนามเด็กเล่นไว้ให้เด็กเล็กได้เข้าไปเล่นกัน ซึ่งมักจะมีแผ่นยาง, แผ่นโฟมหรือแผ่นอะไรก็ตามแต่ที่มีความนุ่มไว้ป้องกันการล้มของเด็กๆ เมื่อเป็นเช่นนั้นสนามเด็กเล่นเหล่านี้เด็กๆก็ควรจะถอดรองเท้าก่อนขึ้นไปเล่น ซึ่งเราจะสอนปูนปั้นทุกครั้งว่าต้องถอดรองเท้า แม้บางครั้งปูนปั้นจะมองไปที่เด็กที่ไม่ถอดรองเท้า หรือที่แย่ไปกว่านั้นผู้ใหญ่ที่เป็นผู้ปกครองกลับไม่ถอดและย่ำขึ้นไปเสียเอง ซึ่งเราจะต้องอธิบายว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร และถ้าเราทำสิ่งที่ถูกต้อง คนอื่นจะทำผิดเราก็อย่าไปทำตาม ที่เนอร์สเซอร์รี่ที่ปูนปั้นเคยอยู่ก็เช่นกัน […]

[Blogger พ่อเอก-54] ปูนปั้น คืนนี้นอนไหนดีครับ

ในครอบครัวเล็กๆ ของเรา เราอยู่กันแค่ 3 คน พ่อ แม่ ลูก แต่แม้จะอยู่แค่ 3 คน แต่เราก็มักจะหาอะไรใหม่ๆมาทำกันเสมอ เพราะเราเชื่อว่าครอบครัวและบ้านเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด ความเชื่ออย่างเดียวคงทำอะไรไม่ได้ เราจึงสอนและทำให้ปูนปั้นได้เรียนรู้ความสุข ความสนุกในครอบครัวในบ้าน เมื่อเป็นเช่นนั้นทุกอย่างในบ้านสนุกได้ แม้กระทั่งการเข้านอน ดังนั้นคำถามที่เกิดขึ้นเสมอ ในคืนวันศุกร์ ก็คือ “ปูนปั้น คืนนี้นอนไหนดีครับ” แม้เราจะชอบเปลี่ยนที่นอนโดยการไปเที่ยวอยู่เสมอ (ถ้าใครที่ได้อ่านเรื่องราวของปูนปั้นมาเรื่อยๆ จะเห็นว่าเป็นเด็กนักเดินทางประมาณนึงทีเดียว) แต่ก็ใช่ว่า เราจะเปลี่ยนบรรยากาศการนอนในบ้านไม่ได้เสียที่ไหนกัน ครอบครัวเราอาศัยในบ้านหลังเล็กๆ หลังหนึ่งขอบกรุงเทพฯ ที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงในการทำงานของเราทุกบาททุกสตางค์ ผมเชื่อเสมอว่า บ้านที่น่าอยู่ คือบ้านที่จัดให้อยู่ในแบบที่เราชอบ เคยมีคนพูดไว้ ว่าเวลาไปเที่ยวชอบพักแบบไหน ก็จัดบ้านให้เป็นแบบนั้น ดังนั้นบ้านเราจึงมีต้นไม้เยอะทีเดียวฮะ การจัดบ้าน ของใช้ในบ้าน อาจจะจะแปลก ในสายตาคนอื่น แต่ มันคือความคุ้นเคยในแบบของเราเราทำให้ทุกที่ในบ้านสามารถนอนได้ เพื่อที่เราจะได้เปลี่ยนบรรยากาศในการนอนเมื่อไหร่ก็ได้ ห้องนอน ที่นอนประจำของเรา ก็คือห้องนอนของปะป๊า หม่าม๊า ซึ่งก็จะมีเตียงที่ปะป๊า หม่าม๊านอน วางติดกับเตียงของเจ้าปูนปั้น คืนไหนเกิดเจ้าตัวป่วนตื่นขึ้นมากลางดึก เจ้าตัวป่วนก็ปีนข้ามมานอนกับ ปะป๊า […]

[Blogger พ่อเอก-53] ลูกอ้อนของปูนปั้น 2 ขวบ+ โลกใบใหม่ ของปูนปั้น

เมื่อปูนปั้นโตขึ้นความดื้อก็มากขึ้นตามอายุ จริงอย่างที่เขาเรียกวัยนี้ว่า terrible two อาการดื้อบางอย่างเราไม่เคยเห็นปูนปั้นทำ และไม่คิดว่าจะได้เห็น ก็ได้เห็น บางอาการเห็นปุ๊บเกิดสงสัยว่าไปเลียนแบบที่ไหนมาหรือป่าว ก็ต้องไปลองถามพี่เลี้ยงถามคุณครู ก็จะได้ความว่า มีเพื่อนๆ ทำในห้อง ลูกก็คงจำมาใช้ เพราะเด็กๆ อยู่ด้วยกันก็คงมีเลียนแบบกัน แกล้งกันเป็นธรรมดา (และคงมีเพื่อนๆ เลียนแบบลีลาปูนปั้นไปใช้เช่นกัน) ก็โลกของปูนปั้นพองใหญ่ขึ้น ไม่ใช่โลกที่มีเพียงอ้อมกอดของปะป๊าและหม่าม๊าอีกต่อไป และนับวันโลกของปูนปั้นก็จะมีแต่ขยายกว้างมากขึ้น ไม่มีวันหดลงมาเหลือใบเล็กเท่าเดิม คุณพ่อคุณแม่ทุกคนคงเจอเหมือนๆกัน เมื่อเหนื่อยมากๆ ล้ามากๆ แล้วเจ้าตัวป่วน หรือ เจ้าตัวยุ่งของเราเกิดงอแงขึ้นมา บางครั้งอารมณ์ของเราก็เริ่มจะดึงไว้ลำบาก มี 3-4 ขั้นตอนที่ครอบครัวเราใช้เสมอๆ มาเล่าให้ฟังกันครับ 1) เปลี่ยนตัว ให้ปะป๊า หรือ หม่าม๊า เข้ามาแทน ตัวผู้เล่นใหม่เข้ามายังสดชื่นน่าจะพูดคุยกับเจ้าตัวป่วนได้ดีกว่า อย่างน้อยก็ยื้อกันได้อีกพักใหญ่ 2) ท่องคำว่า ‘เมตตา’ เขาเป็นลูกเรา เขายังเด็กมาก และเด็กก็คือเด็ก หลายๆ ครั้งการงอแงไม่ต้องมีเหตุผล ไม่ได้มีความหมายว่าต้องการอะไร ดังนั้นต้องหมั่นระลึกถึงความเมตตา เพื่อไม่ให้เราไประเบิดอารมณ์ใส่เด็ก ซึ่งนั่นคือการใส่บางสิ่งที่ไม่ดีเข้าไปในหัวใจดวงเล็กนั้น และหากเกิดบ่อยๆ มันจะทำให้หัวใจดวงน้อยเปลี่ยนไปตลอดกาล […]

[Blogger พ่อเอก-50] ปูนปั้น ไปโรงเรียน วันแรก

เคยเขียนไว้ก่อนหน้านี้ไม่นาน เรื่องอย่ากังวลมากเกินไปในการเตรียมตัวให้ลูกไปโรงเรียนเพราะเด็กจะเรียนรู้เอง การไปคาดหวังอะไรมากมายจากเด็ก นอกจากจะไปกดดันลูกเราเอง ยังไปตำหนิและเปรียบเทียบลูกคนอื่นด้วย แต่เมื่อวันที่ต้องส่งเจ้าปูนปั้นไปโรงเรียนวันแรกมาถึงจริงๆ ก็มีเรื่องให้กังวลเพราะปูนปั้นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลายอย่าง เกิดอะไรขึ้นบ้างในวันแรกที่ปูนปั้นต้องไปโรงเรียน ปะป๊าจะเอามาเล่าให้ฟังกันฮะ ปูนปั้นเป็นเด็กที่อยู่เนอร์สเซอร์รี่ในเมืองอยู่แล้ว เพราะครอบครัวเราอยู่กัน 3 คน พ่อแม่ลูก คงเลี่ยงการฝากเนอร์สเซอร์รี่ไม่ได้ ซึ่งที่เนอร์สเซอร์รี่ ปูนปั้นตื่นนอนจากบ้าน เราก็อุ้มขึ้นรถเลย ไม่ต้องอาบน้ำ ทานข้าว เพราะพี่ๆที่เนอร์สเซอร์รี่ดูแลให้ทั้งหมด นั่นคือที่มาของเรื่องแรกที่เรากังวลว่า ตื่นนอนไปโรงเรียน ต้องอาบน้ำแต่เช้าที่บ้านเลย ปูนปั้นจะงอแงมั้ย เพราะต้องตื่นตั้งแต่ตี5กว่า ผลปรากฏออกมาว่า ตื่นมาอารมณ์ดีปกติ น่าจะมาจาก 3 องค์ประกอบ 1) ปูนปั้นน่าจะได้นอนหลับเพียงพอ เพราะเราให้ปูนปั้นเข้านอนประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง และหลับสนิทที่ไม่เกิน 20.30 น. เป็นประจำ 2) ช่วงเวลาก่อนนอน จะเป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุข เราจะมีกิจกรรมทั้งเล่นเกมส์ อ่านหนังสือ และอื่นๆ เขาจะหลับไปพร้อมรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ 3) เราพูดกระตุ้นและย้ำกับปูนปั้นหลายวันก่อนไปโรงเรียนว่า เขาไม่ใช่เบบี๋ตัวน้อยแล้ว ที่เนอร์สเซอร์รี่จะเป็นที่ดูแลเบบี๋ ตอนนี้ปูนปั้นเป็นเดอะบิ๊กบอยต้องไปโรงเรียนแล้ว ซึ่งต้องตื่นมาอาบน้ำก่อนไปโรงเรียน บอกทุกวัน พอถึงวันจริง […]

keyboard_arrow_up