เด็กวัย 13 ทำเก่งบอกแม่อย่ายุ่งกับชีวิตผม เจอแม่ทวงค่าเช่าบ้าน-อาหาร สิ้นลายเลย

เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษ เปิดเผยเรื่องราวไม้เด็ดของคุณแม่ ที่งัดออกมาจัดการกับลูกชายตัวแสบ หลังจากเขาทำเก่งประกาศตัวเป็นอิสระ แม่อย่ามายุ่งกับชีวิตผม! . . .เรื่องนี้เกิดจาก 2 แม่ลูกได้มีปากเสียงกันในวันหนึ่ง และลูกชายตัวแสบก็ได้ลั่นวาจาว่าเขาเป็นอิสระแล้ว ขอให้แม่อย่ามายุ่งกับชีวิตผมอีก >> แต่ใครเลยจะไปคาดคิดว่าเด็กชายตัวแสบจะสิ้นลายเมื่อเจอไม้เด็ดของแม่ ที่ส่งจดหมายระบุเงื่อนไขในการอยู่ในบ้าน หากเขาคิดว่าตัวเองเป็นอิสระแล้ว โดยเธอเขียนจดหมายทวงค่าเช่าบ้าน ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต แถมยังยึดเสื้อผ้าอีก  “ถึง.. อารอน จากการที่ลูกลืมไปแล้วว่าตัวเองอายุ 13 และแม่ก็คือผู้ปกครองของลูก และลูกก็ไม่อยากจะถูกควบคุมใด ๆ แล้ว แม่คิดว่าลูกจะต้องได้รับบทเรียนของการเป็นอิสระ สำหรับเรื่องที่ลูกบอกแม่ว่าตอนนี้ลูกหาเงินเองได้แล้ว ดังนั้นมันก็คงง่ายเลยที่จะซื้อของที่แม่เคยซื้อให้ลูกกลับคืนไป ต่อไปนี้ถ้าลูกอยากจะใช้ไฟหรือเข้าอินเทอร์เน็ต ลูกจะต้องแชร์ค่าใช้จ่ายกับแม่ดังนี้                 – ค่าเช่าบ้าน 430 ดอลลาร์                 – ค่าไฟ  116 ดอลลาร์                 – ค่าอินเทอร์เน็ต  21 ดอลลาร์ […]

“เด็กเห็น เด็กทำตาม” แคมเปญให้ผู้ใหญ่ระมัดระวังพฤติกรรมก้าวร้าวต่อหน้าเด็ก

มูลนิธิ Child Friendly ประเทศออสเตรเลียได้ปล่อยแคมเปญรณรงค์ภายใต้ชื่อ “Children see Children do” หรือแปลเป็นไทยว่า “เด็กเห็น เด็กทำตาม” โดยมีเนื้อหาจะกล่าวถึงพฤติกรรมแย่ๆ ของผู้ใหญ่ที่แสดงออกมาในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ระดับเบาๆ อย่างการตะโกนใส่กัน ไปจนระดับรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ซึ่งขณะที่ผู้ใหญ่แสดงกิริยาเหล่านี้ เด็กที่เดินตามก็จะเลียนแบบสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำด้วย การที่เด็กเรียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ หรือ เลียนแบบพฤติกรรมจากพ่อแม่และคนรอบข้าง ก็เปรียบเสมือนเด็กคือกระจกของผู้ใหญ่ พฤติกรรม  การพูด อารมณ์ หลายสิ่งอย่าง เด็กจะซึมซับจากคนรอบข้างและแสดงออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว ผู้ใหญ่เองควรรู้จักเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพวกเขาเสียก่อน ไม่เช่นนั้นลูกหลานของคุณอาจเป็นแบบนี้! ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : NAPCAN  

10 ลูกสาวดารา ฉายแววนางเอกตั้งแต่เด็ก สวยไม่แพ้คุณแม่

ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกดารา มีคุณพ่อคุณแม่หน้าตาดี ดีกรีเป็นถึงระดับดาราชื่อดัง คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูก ๆ จะออกมามีหน้าตาสวยเป๊ะพิมพ์เดียวกัน เผลอ ๆ คุณลูก ๆ จะหน้าตาดีกว่าคุณพ่อคุณแม่ซะอีกนะเนี่ย …ว่าแต่จะมีซุปตาร์วัยเบบี๋คนไหนที่ยิ่งโตก็ยิ่งสวยน่ารักไม่แพ้คุณแม่กันบ้าง วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปยลโฉมลูก ๆ ดารา 10 คนดัง ที่กำลังฉายแววสวยน่ารักไม่แพ้คุณแม่มาให้ชมกันค่ะ ดูสิจะมีสาวน้อยคนไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ ^_^ น้องณดา ลูกสาวคุณแม่ กบ สุวนันท์ ยิ่งโตก็ยิ่งหน้าหวาน ฉายแววนางเอกมาแต่ไกล น้องไลลา ลูกสาวคุณแม่ พอลล่า เทย์เลอร์ สาวน้อยลูกครึ่งคนนี้ สวยได้แม่เลยล่ะ        น้องลียา ลูกสาวคุณแม่ ธัญญ่า ธัญญาเรศ สวยเป๊ะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพิมพ์เดียวกัน ^^ น้องณิริน ลูกสาวคุณแม่ หนิง ปณิตา ยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก อนาคตซุปตาร์แน่นอน น้องบีน่า ลูกสาวคุณแม่ นานา ไรบีนา สาวน้อยคนนี้สวยได้แม่มาแบบเต็ม ๆ น้องเนซซี่ ลูกสาวคุณแม่ แหม่ม […]

ุเตือน! อย่าปล่อยสุนัขพันธุ์พิตบูลไว้กับเด็กเพียงลำพัง

จินตนาการของลูกน้อยนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่พื้นที่ในการรองรับจินตนาการก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่พร้อมที่จะดูแลคุณลูก … ก็ควรเตรียมพื้นที่รองรับฝีมือ!

พ่อแม่แทบช็อก !! เมื่อลูกแรกเกิด ถูกหนูตัวยักษ์กัดจนตายที่โรงพยาบาล

เรียกได้ว่า หนู นั้นเป็นเสมือนสัตว์สามัญประจำบ้านที่ไม่ว่าบ้านไหนๆก็ต้องมีไปซะแล้ว เจ้าสัตว์จอมแทะชนิดนี้สร้างความลำบากให้เราเป็นอย่างมาก มันไม่เพียงแต่กัดแทะทำลายอาหารของกินของเราเท่านั้น แต่รวมไปถึงทรัพย์สินอันมีค่าของเราอีกด้วย แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากจริงๆที่จะหลีกเลี่ยงเจ้าสัตว์จอมแทะชนิดนี้ไม่ให้อาศัยอยู่ตามที่พักพิงอาศัย แต่กับโรงพยาบาลนั้น อาจจะเป็นเรื่องยากซักหน่อย เพราะทุกโรงพยาบาลจะมีการป้องกันทางด้านสุขาภิบาลที่สูง เพื่อไม่ให้สัตว์พวกนี้เข้าไปอยู่อาศัย หรือถ้ามีนั้นก็ควรจะมีจำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่งั้นแล้วอาจจะเกิดปัญหาที่คาดไม่ถึงเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับเด็กทารกโชคร้ายคนนี้ เด็กทารกแรกเกิดที่เพิ่งลืมตาดูโลกได้เพียง  10 วัน โดนหนูกัดทำร้ายจนถึงชีวิตคาห้องไอซียูที่โรงพยาบาลคุนตูร์ รัฐอานธรประเทศ ประเทศอินเดียตะวันออกเฉียงใต้ แม่ของเด็กทารกน้อยผู้โชคร้ายคนนี้ได้เปิดเผยว่า เธอนั้นได้เตือนกับทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการมีอยู่ของเจ้าสัตว์จอมแทะพวกนี้แล้ว แต่กลับไม่มีท่าทีใดๆจากทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่จะกำจัดพวกมันออกไป และแม่กล่าวต่อว่า หลังจากที่ลูกของเธอนั้นโดนหนูกัดทำร้าย เธอได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่เพื่อขอให้ทำการศัลยกรรมรักษาในส่วนรอยกัดของดวงตาลูกของเธอก่อน แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับไปให้ความสำคัญมุ่งประเด็นรักษากับรอยกัดตรงแขนขวา รวมถึงเด็กทารกน้อยผู้โชคร้ายยังถูกหนูกัดแทะนิ้วจนขาด ทางคุณแม่เด็กปักใจเชื่อว่า การที่ลูกของเธอตายนั้น ไม่ใช่เพราะโดนหนูกัดโดยตรง แต่เป็นเพราะฝีมือหมอและทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่วินิจฉัยและรักษาได้ช้า ไม่ตรงจุดด้วย ทางคุณพ่อของเด็กชายยืนยันอีกเสียงว่าการที่ลูกชายของเขาตายนั้น เป็นฝีมือของหนูกัดจริงๆ แต่ทางเจ้าหน้าที่กลับแนะเขาว่า ไม่เห็นจำเป็นต้องกังวลในเมื่อเขายังมีลูกชายอีกคนอยู่ไม่ใช่เหรอ? รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขทราบเรื่องจึงได้ยกเลิกสัญญากับเจ้าหน้าที่สุขาภิบาลประจำโรงพยาบาลและสั่งให้ตำรวจสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที พร้อมกับติดตามและรอผลรายงานภายในหนึ่งสัปดาห์ อีกทั้งเขายังบอกอีกว่าจะไม่ปล่อยและประมาทกับเรื่องนี้ ด้วยการส่ง 3 เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขลงไปช่วยตรวจสอบอีกด้วย . . . เมื่อพวกเขาได้เริ่มทำการตรวจสอบด้วยการติดตั้งที่ดักจับหนูตามแต่ละพื้นที่ในโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบว่าเป็นความจริงหรือไม่ที่มีเจ้าหนูฆาตกรอาศัยอยู่ในโรงพยาบาล หลังจากนั้นทางผู้อำนวยการของโรงพยาบาลคุนตูร์ได้ออกมายอมรับว่า มีหนูมาติดกับที่ดักจับอยู่จริง และได้ทำการตรวจสอบที่มาของพวกมันจนสรุปออกมาได้ว่า เจ้าหนูฆาตรกรพวกนี้หลุดเข้ามาผ่านทางท่อเครื่องปรับอากาศของทางโรงพยาบาลนั่นเอง ทางผู้อำนวยการกล่าวต่อว่า มันเป็นเรื่องน่าสลดที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องผิดพลาดของทางโรงพยาบาลเองด้วยที่ปล่อยให้เจ้าหนูพวกนี้เล็ดลอดเข้ามาอาศัยอยู่บวกกับกระทำที่ไม่รอบคอบของทางหมอและเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเองในเวลาเดียวกัน ที่มา : […]

สร้างความสุข…สร้างความหวัง…สร้างโอกาสหนึ่งพันธกิจหลักของมูลนิธิรามาธิบดีฯ

ผศ.นายแพทย์ อดิศักดิ์ นารถธนะรุ่ง หัวหน้าหน่วยเนื้องอกกระดูก ภาควิชาออร์โธปิดิกส์คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกล่าวว่า3 เดือนก่อนมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยได้รับอุบัติเหตุจักรยานล้มทับเข่าซ้าย จากนั้นสังเกตเห็นว่าเข่าซ้ายบวมมากขึ้น และปวดมากโดยเฉพาะเวลากลางคืนจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง แต่อาการโดยรวมยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ผลเอ็กซเรย์พบความผิดปกติที่กระดูก แพทย์สงสัยว่าจะเป็นมะเร็งกระดูกซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษา อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตและโรงพยาบาลรัฐแห่งนั้นไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งกระดูก ผู้ป่วยจึงถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง ภายหลังจากที่แพทย์ได้ตรวจดูอาการของโรคอย่างละเอียดแล้ว จึงทำให้ทราบว่าผู้ป่วยกำลังป่วยเป็น “โรคมะเร็งกระดูกขาซ้าย” ทีมแพทย์ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าผู้ป่วยรายนี้สามารถผ่าตัดเก็บขาได้ ซึ่งการรักษาโรคมะเร็งชนิดนี้ จะต้องผ่าตัดเอาส่วนที่เซลล์มะเร็งลุกลามออกไปทั้งหมด เพื่อรักษาขีวิตของผู้ป่วยเอาไว้ นับว่าเป็นโชคดีที่ผู้ป่วยได้มาพบกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลรามาธิบดี ที่สามารถรักษาโรคนี้ได้โดยการใช้เทคโนโลยีการผ่าตัดแบบใหม่ทำให้ไม่ต้องตัดขาด้านซ้ายทิ้ง โดยทีมแพทย์ได้ทำการผ่าตัดเอากระดูกเดิมที่เป็นมะเร็งกระดูกที่บริเวณขาซ้ายออกทั้งหมด และทดแทนด้วยข้อเทียมชนิดพิเศษ (endoprosthesis)โดยใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดทั้งสิ้น 14 ชั่วโมงและยังคงมีการให้ยาเคมีบำบัดอย่างต่อเนื่องหลังผ่าตัด   เด็กหญิงนันท์นภัส ทับทิมศรี (น้องพั้นซ์) อายุ 11 ปีผู้ป่วยโรคมะเร็งกระดูกขาซ้าย ที่ได้รับผ่าตัดแบบใหม่โดยไม่ต้องตัดขาซ้ายทิ้ง ซึ่งใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 14 ชั่วโมงกล่าวว่า “ขอบคุณทีมอาจารย์ทุกท่าน โดยเฉพาะคุณหมออดิศักดิ์ นารถธนะรุ่งด้วยค่ะ ที่อาจารย์หมอใช้การรักษาด้วยวิธีและเทคโนโลยีใหม่ครั้งนี้ แทนการตัดขาซ้ายหนูทิ้ง และต้องขอบคุณมูลนิธิรามาธิบดีฯ และงานสังคมสงเคราะห์โรงพยาบาลรามาธิบดี ค่าข้อเทียมชนิดพิเศษ ที่มีราคาสูงเกือบ 4 แสนบาท รวมไปถึงทีมแพทย์ที่เข้ามาดูแลรักษาสุขอนามัยที่อยู่อาศัยและช่วยสนับสนุนในการซ่อมแซมบ้าน เพื่อให้หนูและครอบครัวมีสุขภาพกาย สุขภาพใจ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น […]

สมเด็จพระบรมฯ กับ”พระองค์ที” ทรงฝึกกิจกรรมทางน้ำในวันปิดภาคเรียน

ชมพระฉายาลักษณ์ ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร  และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ทรงฝึกกิจกรรมทางน้ำในช่วงปิดภาคเรียน โพสต์ผ่านเฟซบุค โดยสุริยัน หมอหยอง สุจริตพลวงศ์ ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เฟซบุค โดยสุริยัน หมอหยอง สุจริตพลวงศ์ www.khaosod.co.th

ยอดกตัญญู เด็กหญิง 12 ขวบ อาศัยช่วงพักกลางวัน โบกรถเพื่อกลับไปป้อนข้าวแม่เป็นอัมพฤกษ์

ด.ญ. กฤษณา หรือ น้องน้ำเย็น อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านแหลมมะขาม จ.ตรัง เป็นเด็กหญิงกตัญญูสู้ชีวิต ซึ่งจะใช้เวลาช่วงพักเที่ยง โบกรถยนต์ที่ขับผ่านถนนหน้าโรงเรียนฯ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อกลับไปป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับแม่ ซึ่งล้มป่วยด้วยโรคเนื้องอกในสมองและเนื้องอกใกล้ลิ้นหัวใจ ทำให้เป็นอัมพฤกษ์ซีกขวา ไม่สามารถพูดหรือขยับร่างกายซีกขวาได้มานานกว่า 1 ปีแล้ว ส่วนพี่ชายอายุ 14 ปี ก็ต้องลาออกจากโรงเรียน ตั้งแต่อยู่ชั้น ม.4 เพื่อมาช่วยบิดาออกเรือหาปลา หาเงินมารักษามารดาและเลี้ยงน้องชายวัย 5 ขวบ อีก 1 คน ซึ่งหลังพักเที่ยงของทุกวัน น้องน้ำเย็นจะโบกรถกลับมาบีบนวด เช็ดเนื้อตัวและป้อนข้าวป้อนน้ำให้กับมารดา ก่อนที่จะโบกรถกลับไปเรียนหนังสือต่อในช่วงบ่ายที่โรงเรียน โดยคุณครูเจ้าของโครงการระบบดูแลช่วยเหลือเด็กนักเรียนได้สังเกตเห็นน้องน้ำเย็นกลับบ้านทุกตอนเที่ยง จึงสอบถามและติดตามไปยังบ้านพัก จึงพบสภาพมารดาที่นอนป่วยและน้องน้ำเย็น ซึ่งกำลังดูแลมารดา จึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของเด็กหญิงยอดกตัญญูรายนี้ ด้านน้องน้ำเย็น กล่าวว่า ตนเองหวังให้มีใครสักคนพามารดาไปรักษาให้หายเท่านั้น ตนก็พอใจแล้ว ส่วนตนอยากเรียนให้ถึงระดับมหาวิทยาลัย แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากทางบ้านต้องส่งเสียให้น้องชายคนเล็กเรียนหนังสืออีกคน ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.khaosod.co.th

เด็กชิลี 2 ขวบถูกทิ้ง แต่รอดเพราะนมแม่หมาช่วยชีวิต!

เจ้าหน้าที่ตำรวจชิลี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเด็กเล็กคนหนึ่ง ไม่สวมเสื้อผ้า ถูกทอดทิ้งในโรงกลึง ของท่าเรือร้าง Arica เมื่อเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว ก็พบตัวหนูน้อยวัย 2 ขวบ แต่ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด โดยตำรวจระบุว่า จากการสอบสวนพบว่าเจ้าหนูคนนี้ ถูกทอดทิ้งโดยปราศจากอาหารและน้ำ เพราะผู้เป็นแม่ติดสุราอย่างหนัก โดยเพื่อนบ้านแจ้งว่า เจ้าหนูต้องอาศัยกินนมจากแม่สุนัขที่กำลังตั้งท้องเพื่อประทังชีวิต เนื่องจากผู้เป็นแม่ติดสุราอย่างหนักและทิ้งลูกเอาไว้โดยปราศจากอาหารและน้ำ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรอดชีวิตจากการได้ดื่มนม จากเต้าของแม่สุนัขตัวนั้น   ตอนนี้เจ้าหนูคนนี้ ถูกส่งตัวไปดูแลที่โรงพยาบาลแล้ว โดยพบว่าเขาเป็นโรคขาดสารอาหาร รวมถึงผิวหนังติดเชื้อด้วย และก็จะถูกนำตัวส่งไปยังสถานเลี้ยงเด็กต่อไป อย่างไรก็ดี แม่ของเด็กจะไม่ถูกจับกุม เนื่องจากเด็กไม่ได้มีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย พ่อของเด็กปรากฏตัวในภายหลัง แต่ยังไม่รู้ว่าเขามีสิทธิในการเลี้ยงดูลูกหรือไม่ ที่สำคัญตอนที่ตำรวจพบตัวเด็กในเวลานั้นไม่รู้ว่าพ่อแม่ไปอยู่ที่ไหน แต่จะมีการตัดสินในช่วงปลายเดือนนี้ว่าใครจะเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็กชาย หากตัดสินใจจะสร้างชีวิตหนึ่งขึ้นมาแล้ว เราได้แต่หวังว่าคุณพ่อคุณแม่จะดูแลลูกของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้นะคะ   ที่มา: Dailymail ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.kiitdoo.com

คุณหมอเฉลย !! “กิ้งกือ” กัดเด็ก ได้จริงหรือ?

เพราะในกระแสโลกออนไลน์ เคยมีคุณแม่โพสต์ภาพแผลลูกน้อยถูกสัตว์กัด โดยระบุว่าเกิดจากกิ้งกือกัดลูก จริงหรือไม่ ไปพบคำตอบจากกุมารแพทย์กันค่ะ

“Thai Dictionary” แอปพลิเคชัน พจนานุกรมภาษาไทย ที่ทุกคนรอคอย

แอปพลิเคชันพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ บนสมาร์ตโฟนพร้อมให้ดาวน์โหลดในวันจันทร์ที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘ ทั้งระบบ iOS, Android และ Windows

สุดซึ้ง “น้องทาม“ เด็กไร้แขน กับฝันเล็กๆ แค่อยากได้กอดแม่

ด.ช.วรรธนะ คำอินทร์ อายุ 11 ปี หรือ “น้องทาม” ซึ่งเป็นเด็กชายที่ไร้แขนทั้ง 2 ข้างและร่วมปั่นจักรยานในกิจกรรม Bike for Mom”ปั่นเพื่อแม่” เมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2558 ที่ผ่านมา และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระบรมโอรสสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานรถจักรยานคันใหม่ ซึ่งน้องทามกับแม่ ซาบซึ้งใจในพระมหากรุณาธิคุณมาก อีกทั้งเจ้าตัวยังตั้งใจจะปั่นช่วยส่งของ เพื่อแบ่งเบาภาระแม่ ถึงแม้ว่าน้องทามจะไม่มีแขน แต่น้องทามก็สามารถใช้เท้าทำการบ้านได้อย่างคล่องแคล้ว ไม่ทำให้ความพิการเป็นอุปสรรคต่อการเรียนเลย ครูประจำชั้นของน้องทาม บอกว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่น้องทามเรียนชั้นอนุบาลมาจนถึงปัจจุบัน น้องทามมีความมุ่งมั่น สามารถพึ่งพาตนเองได้เกือบทุกอย่าง มีเพียงแค่บางครั้งเท่านั้นที่จะขอความช่วยเหลือจากคุณครู โดยมีเพื่อนๆที่รักน้องทามคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลา น้องทาม บอกว่า ตนมีความใฝ่ฝันว่า สักวันหนึ่งจะมีแขน อยากจะมีแขนเอาไว้กอดแม่ และช่วยแม่ขายของ ส่วนแม่น้องทาม บอกว่า หากเป็นความต้องการของน้องทาม ที่อยากจะมีแขนนั้น แม่ก็ไม่ขัดขวาง แต่ในใจลึกๆ แล้ว แม่ไม่อยากให้ลูกเจ็บ แม่ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่านี้ เพราะว่าตนเองไม่อยากให้ลูกต้องเจ็บปวดจากการผ่าตัด เนื่องจากที่ผ่านมาแพทย์เคยแนะนำว่า หากจะต่อแขนเทียมหรือแขนกล ก็จะต้องรอให้น้องทามเจริญเติบโตเต็มที่ก่อน แต่ทุกวันนี้แม่และน้องทามก็กอดกันทุกวันอยู่แล้ว ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : […]

สาวท้อง 7 เดือนลื่นล้ม มีดทำครัวเสียบท้อง – เลือดไหลทะลัก

เมื่อเวลา 17.10 น. วันที่ 8 ก.ย. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รับแจ้งเหตุมีผู้บาดเจ็บล้มแล้วถูกมีดแทงเข้าบริเวณท้อง เหตุเกิดภายในบ้านพัก ซอยเพชรเกษม 87 ตั้งอยู่ใกล้กับเทศบาลนครอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและช่วยเหลือ   ภายในบ้านหลังเกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ เป็นหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ประมาณ 7 เดือน สภาพโดนมีดทำครัวเสียบเข้าบริเวณท้อง และมีเลือดไหลออกมา เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งปฐมพยาบาลและห้ามเลือดเป็นการด่วน จากนั้นประสานไปยังร.พ.วิชัยเวช อ้อมน้อย ก่อนนำรถมารับไปส่งยังร.พ.มหาชัย 2 โดยแพทย์เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน เบื้องต้นสามารถช่วยเหลือทั้งแม่และเด็กจนปลอดภัย จากการสอบถามหญิงสาวที่ตั้งครรภ์เล่าว่า ขณะกำลังนั่งอยู่ภายในบ้านได้ลุกไปหยิบมีด แต่จังหวะที่กำลังเดินนั้น เกิดพลาดลื่นล้ม ทำให้มีดที่ถืออยู่เกิดเสียบเข้าบริเวณท้องจนเป็นแผล ด้วยความตกใจจึงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาล ก่อนแพทย์ช่วยเหลือจนปลอดภัย ขอบคุณภาพและข้อมูลภาพจาก : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1441730545

เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เปิดลงทะเบียน 15 กันยายนนี้!

เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด 400 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 12 เดือนของกระทรวงสาธารณสุข ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 15 กันยายน 2558 – 31 มีนาคม 2559

สุดยอดคุณพ่อกับไอเดียเด็ด นำสีเทียนเหลือใช้มารีไซเคิลและมอบให้กับเด็กๆ

สีเทียนเป็นของคู่กับเด็กๆ อย่างไม่ต้องสงสัย เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่เด็กๆ จะได้ปลดปล่อยจินตนาการของตัวเองผ่านการวาดภาพและลงสี แต่ทว่าปัญหาของสีเทียนก็คือใช้ไม่หมดก็ถูกทิ้งเสียแล้ว และด้วยเหตุนี้เองคุณพ่อ Bryan Ware จากเมือง San Francisco ได้นำสีเทียนที่ใช้ไม่หมดและเหลือทิ้งเป็นจำนวนมากกว่า 34 กิโลกรัมในแต่ละปี นำมาผ่านกระบวนรีไซเคิลทำให้เป็นสีเทียนใหม่อีกครั้ง สีเทียนเก่าที่ได้่รับมาจากการบริจาคถูกมานำมาต้มและหล่อขึ้นรูปใหม่อีกครั้ง ด้วยส่วนผสมที่เขาคิดค้นขึ้นเอง โดยในกระบวนการรีไซเคิลสีเทียนแต่ละครั้งนั้น จะสามารถทำสีเทียนใหม่ได้ประมาณ 95 แท่งต่อครั้ง และจะมีลักษณะที่ใหญ่กว่าขนาดทั่วไป เพื่อให้เด็กๆ สามารถจับได้ถนัดมือมากขึ้น และเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมด ขั้นตอนสุดท้ายก็คือการนำไปส่งให้กับเด็กๆ ในโรงพยาบาลต่างๆ ในรัฐ California โดยในปัจจุบันสีเทียนใหม่นี้ถูกส่งไปมากกว่า 2,000 กล่องแล้ว โดยมีลูกๆ ของเขามาช่วยส่งความสุขให้กับเด็กๆ อีกด้วย   คุณพ่อ Bryan กล่าวเอาไว้ว่า ‘ถ้าหากว่าสีเทียนสามารถช่วยปลดปล่อยเด็กๆ ออกจากห้องพักฟื้นในโรงพยาบาลได้ซัก 10 นาที นั่นก็ถือว่าพวกเราประสบความสำเร็จแล้วล่ะ’ ที่มา : thechive ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : v/recycle-crayons-for-child-290/  

ภาพหาชมยาก “ลูกช้างกำพร้า” กำลังดูดนมผู้หญิงแม่ลูกอ่อน

ภาพลูกช้างกำพร้ากำลังดูดนมผู้หญิงแม่ลูกอ่อน พ.ศ. 2446 สมัยรัชกาลที่5 ภาพนี้คือนางสุก ชาวจังหวัดตาก ที่ให้นมของตนแก่ลูกช้างหลงแม่ ลูกช้างกำลังเอางวงพาดบ่านางสุกดื่มนมเหมือนเด็ก ในขณะที่นางสุกใช้มืออีกข้างหนึ่งอุ้มลูกอ่อนไปด้วย รายละเอียดของเรื่องนี้มีอยู่ในนิทานโบราณคดีเรื่องที่ 20 พระนิพนธ์ของ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ โดยสรุปคือ สามีของนางสุกเข้าป่าไปพบลูกช้างหลงแม่ มีความสงสารจึงเอามาเลี้ยง ลูกช้างรู้จักกินนมนางสุก จึงเป็นที่รักของทุกคน . . . วันหนึ่งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จไปตรวจราชการ เห็นว่าเป็นเรื่องประหลาด จึงสั่งให้พาลงมาถวายรัชกาลที่5 ทอดพระเนตรทีกรุงเทพฯ บังเอิญมาถึงเมื่อใกล้งานวัดเบญจมบพิตร จึงได้กั้นม่านเก็บเงินคนดูที่ในงาน ได้เงินกลับไปเมืองตากมากมาย อนึ่งในงานนี้สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงจัดห้องขายรูปถ่ายลูกช้างกินนมคนเป็นพิเศษอีกห้องหนึ่งด้วย (เชื่อว่าถ่ายในปี พ.ศ. 2446) รูปถ่ายนางสุกเลี้ยงลูกช้างจึงมีหลงเหลือมาให้เราได้เห็น ขอบคุณข้อมูลจาก : ภาพเก่าเล่าตำนาน เอนก นาวิกมูล ที่มาจาก : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=698403866901275&set=a.694274113980917.1073742152.100001950039220&type=1&theater

บริษัทญี่ปุ่นสุดครีเอท จัดโปรแกรมฝากลูกรับปิดเทอมฤดูร้อนที่บริษัท!

บริษัทญี่ปุ่นชื่อดังอย่างบริษัท Mitsubishi Shouji ผุดไอเดียจัดโปรแกรมให้พนักงานสามารถเอาลูกๆ มาฝากเลี้ยงที่บริษัทได้ทั้งวันตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาเลิกงาน!

ศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ ผู้ได้รับรางวัลชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ ครั้งที่ 12 ประจำปี พ.ศ. 2558

บุคคลที่ได้รับ รางวัลชูเกียรติ อุทกะพันธุ์ ครั้งที่ 12 ประจำปีพุทธศักราช 2558 ได้แก่ ศาสตราจารย์สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์ ประธานอำนวยการจัดทำสารานุกรมวัฒนธรรมภาคใต้ ผู้ริเริ่มก่อตั้งสถาบันทักษิณคดีศึกษาและพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา

keyboard_arrow_up